คุมตัวชาวจีนชี้จุดเกิดเหตุคดีฆ่าสาวสองสุดโหด ยืนยันไม่เกี่ยวค้าอวัยวะ

Author:

คุมตัวชาวจีนชี้จุดเกิดเหตุคดีฆ่าสาวสองสุดโหด อ้างลงมือเพราะโกรธจัด อยากรู้อยากเห็นหลังดูซีรีส์เกี่ยวกับการกรีดร่างมนุษย์ ยันไม่เกี่ยวค้าอวัยวะ

จากกรณีนายวรนันท์ พันนาชา หรือ “น้องโน๊ต” สาวประเภทสอง อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดหนองคาย ถูกนายถงหยวน ฟู่ (Mr. Tongyung Fu) ชาวจีน อายุ 42 ปี ฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมภายในอพาร์ตเมนต์ย่านพัทยากลาง ล่าสุด พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี  พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา และ พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.(สส.) ได้นำตัว นาย ฟู่ ตงหยวน (Mr. Fu Tongyuan) สัญชาติจีน ผู้ต้องหาไปทำแผนที่เกิดเหตุ โดยมีประชาขนยืนมุงดูจำนวนมาก โดยคุมตัวเข้าห้องและทำแผนขั้นตอนต่างๆจนถึงทำให้ น้องโน๊ต สาวประเภทสองเสียชีวิต จากนั้นได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดพบตัว น้องโน๊ต และ จุดที่หลบหนี

นาย อ้วน พันนาขา อายุ 61 ปี พ่อของนายวรนันท์ หรือ “น้องโน๊ต” เปิดเผยด้วยความโศกเศร้าว่า รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก และตอนนี้ยังไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป เพราะน้องโน๊ตเป็นเสาหลักของครอบครัว เพิ่งสร้างบ้านใหม่เสร็จหมาด ๆ และยังเป็นความหวังของทั้งบ้าน โดยปกติ ผู้เสียชีวิตจะกลับบ้านปีละ 2-3 ครั้ง ล่าสุดเพิ่งกลับบ้านเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา เพียงไม่กี่วันก่อนเกิดเหตุสลด

ผู้เป็นพ่อเล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีหมอดูมาทำนายกับครอบครัวว่า ในปีที่อายุ 60 ปี จะต้องสูญเสียของรักของหวง ซึ่งตอนนั้นครอบครัวคิดว่าจะเป็นตัวพ่อเองที่จากไป ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเสียลูกชายแทน และยิ่งเศร้าใจไปกว่านั้น คือน้องโน๊ตมาเสียชีวิตตรงกับวันเกิดของแม่พอดี

สำหรับสาเหตุของเรื่องราว พ่อบอกว่าไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัด เพราะในห้องมีแค่ลูกกับคนร้ายสองคน อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่เมื่อเห็นพฤติกรรมของคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างโหดร้าย ก็อยากให้มีบทลงโทษขั้นเด็ดขาด “อยากให้ฉีดยาให้ตายไปเลย จะได้ไม่ก่อเหตุกับใครอีก”

พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ กล่าวว่า คดีนี้สร้างความสะเทือนใจให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากลักษณะความโหดเหี้ยมของการก่อเหตุ โดยหลังรับแจ้งเหตุช่วงเวลา 09.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติศาลออกหมายจับ พร้อมสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิในเวลาไม่นาน ก่อนที่นายถงหยวน ฟู่ จะหลบหนีกลับประเทศจีน

จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องหาและผู้ตายรู้จักกันผ่านทาง WeChat หลังพบกันบริเวณใกล้ถนนวอล์คกิ้งสตรีท ก่อนมีการนัดพบกันที่อพาร์ตเมนต์ในช่วงประมาณ 22.00 น.ของคืนเกิดเหตุ และเกิดการทะเลาะวิวาทขึ้นช่วงประมาณตี 1 ถึงตี 2 โดยมีเสียงดังนานครึ่งชั่วโมง ก่อนจะเงียบลง กระทั่งกล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องหาเดินออกจากที่พักในช่วง 07.00 น. พร้อมกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบและถุงพลาสติกหนึ่งถุง

ภายหลังการก่อเหตุ ผู้ต้องหาใช้กรรไกรกรีดร่างผู้ตายตั้งแต่ลำคอถึงอวัยวะเพศ ควักหัวใจและนำซิลิโคน เต้านมสองข้างออกมาวางข้างศพ โดยให้การว่าเกิดจากความอยากรู้อยากเห็น หลังดูซีรีส์เกี่ยวกับการกรีดร่างมนุษย์ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ ยืนยันว่า เหตุการณ์นี้ไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์หรือค้าอวัยวะตามที่มีข่าวลือ และจากการตรวจสอบพบว่าภายในกระเป๋าและถุงที่ผู้ต้องหาพกออกไป ไม่มีชิ้นส่วนอวัยวะแต่อย่างใด มีเพียงขวดน้ำ เสื้อผ้า และโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย

สอบสวนเพิ่มเติมพบว่า นายถงหยวน ฟู่ เดินทางมาเที่ยวเมืองพัทยาเป็นครั้งที่ 3 มีอาชีพเป็นช่างเชื่อมในประเทศจีน มาเช่าอพาร์ตเมนต์พักเป็นเวลา 6 วัน ขณะนี้ตำรวจยังอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อสรุปสำนวนคดี

พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้นโยบายเร่งด่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เนื่องจากเมืองพัทยาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญระดับโลก เมื่อเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญจึงต้องเร่งรัดปฏิบัติการจับกุมอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ผู้ต้องหลบหนีออกนอกประเทศได้

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาในตอนแรกยังให้การปฏิเสธและไม่พูดอะไร แต่ภายหลังจากเห็นพยานหลักฐานที่แน่นหนา จึงยอมรับสารภาพในที่สุด