ไม่ใช่ทุกอย่างที่เหมาะสมจะเก็บไว้ในตู้เย็น เปิดชื่อผักและผลไม้ 6 ชนิด ที่ยิ่งเก็บในตู้เย็นยิ่งเน่าเสียเร็ว หลายคนมักทำผิดพลาด
การมีตู้เย็นทำให้เราสามารถเก็บอาหารได้นานขึ้น ช่วยไม่ให้เราต้องไปซื้อของสดทุกวัน และยังทำให้เราสามารถเตรียมอาหารสดใหม่ได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ทุกรายการผักและผลไม้ที่ควรเก็บในตู้เย็น บางชนิดเมื่อเก็บในอุณหภูมิที่ต่ำเกินไปอาจทำให้คุณภาพเปลี่ยนแปลง สูญเสียรสชาติ หรือบางครั้งอาจเน่าเสียเร็วขึ้นด้วยซ้ำ
Polina Tankilevitch
-
มันฝรั่ง
มันฝรั่ง เป็นวัตถุดิบที่คุ้นเคยในครัวของหลายบ้าน หากเก็บมันฝรั่งในตู้เย็น แป้งในมันฝรั่งจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ทำให้รสชาติหวานขึ้นและเนื้อสัมผัสเปลี่ยนไป ซึ่งส่งผลให้คุณภาพของอาหารลดลง
ที่สำคัญกว่านั้น สภาพความชื้นในตู้เย็นสามารถทำให้มันฝรั่งเริ่มงอกหรือเปลี่ยนเป็นสีเขียว ซึ่งเมื่อถึงจุดนี้ มันจะผลิตสารโซลานีน—สารพิษที่อันตรายต่อสุขภาพ
วิธีการหากจำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น: หากไม่มีที่เก็บในที่เย็นและโปร่ง ก็สามารถเก็บมันฝรั่งในช่องเย็นที่อุณหภูมิ 7-10 องศาเซลเซียส โดยห่อด้วยถุงกระดาษเพื่อช่วยลดความชื้น และควรใช้ภายใน 1-2 สัปดาห์เพื่อป้องกันการงอกของมันฝรั่ง อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดคือการเก็บไว้ในที่แห้งและโปร่ง ระวังแสง เช่น ในกล่องไม้หรือตะกร้าที่รองด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์
-
มะเขือเทศ
เช่นเดียวกับมันฝรั่ง มะเขือเทศก็ไม่เหมาะที่จะเก็บในตู้เย็น หากเก็บไว้ในตู้เย็น มะเขือเทศจะค่อยๆ สูญเสียน้ำ ทำให้เนื้อไม่ฉ่ำน้ำและรสชาติที่สดใหม่หายไป
นอกจากนี้ อุณหภูมิที่ต่ำยังสามารถทำลายโครงสร้างเซลล์ ทำให้ผิวของมะเขือเทศย่นและนิ่ม ไม่อร่อยเหมือนเดิม วิธีที่ดีที่สุดคือเก็บมะเขือเทศไว้ที่อุณหภูมิห้อง ป้องกันแสงแดดโดยตรง หากมะเขือเทศสุกเกินไป ควรใช้ให้เร็วที่สุดเพื่อคงรสชาติที่ดีที่สุด
วิธีการหากจำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น: หากต้องการเก็บไว้เป็นเวลานาน เช่น มะเขือเทศสุกเกินไป ให้เก็บในช่องผักที่อุณหภูมิประมาณ 10 องศาเซลเซียส โดยห่อมะเขือเทศแต่ละลูกด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์หรือถุงกระดาษเพื่อลดการสูญเสียน้ำ และควรใช้ภายใน 3-5 วัน อย่างไรก็ตาม ควรเก็บไว้ข้างนอกให้ห่างจากแสงแดดโดยตรง และใช้ให้เร็วที่สุดเมื่อมะเขือเทศสุก
-
หอมหัวใหญ่
หอมหัวใหญ่ไม่ควรเก็บในตู้เย็น เพราะความชื้นสูงจะทำให้หอมหัวใหญ่เน่าเปื่อยและขึ้นราได้ง่าย นอกจากนี้ หอมยังมีกลิ่นค่อนข้างแรง หากเก็บไว้ในตู้เย็นร่วมกับอาหารชนิดอื่น กลิ่นของหอมอาจไปติดกับอาหารอื่น ทำให้รสชาติของอาหารนั้นๆ เสียไป
วิธีการเก็บรักษาหอมหัวใหญ่ที่ดีที่สุดคือลงในที่แห้งและโปร่ง หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรง
วิธีการหากจำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น: หากหั่นแล้วหรือไม่มีที่เก็บที่แห้งและโปร่ง ให้ห่อหอมหัวใหญ่ในถุงซิปล็อค เพื่อป้องกันกลิ่น และเก็บในช่องเย็น ใช้ภายใน 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดคือเก็บไว้ข้างนอกในตะกร้าหรือถุงตาข่าย หลีกเลี่ยงแสงแดด
-
กระเทียม
กระเทียมก็ไม่เหมาะที่จะเก็บในตู้เย็น หากเก็บในตู้เย็น กระเทียมอาจเริ่มงอกหรือขึ้นราได้ ซึ่งทำให้รสชาติและคุณภาพลดลง แทนที่จะเก็บในตู้เย็น ควรเก็บกระเทียมในถุงตาข่ายหรือถุงกระดาษและวางในที่แห้งและโปร่ง เพื่อรักษากลิ่นหอมและรสชาติให้คงอยู่
วิธีการหากจำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น: หากต้องการเก็บไว้เป็นเวลานาน ให้ห่อกระเทียมในถุงกระดาษและเก็บในช่องเย็นที่อุณหภูมิประมาณ 4 องศาเซลเซียส ใช้ภายใน 2-3 สัปดาห์เพื่อป้องกันการงอก อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดคือการแขวนในถุงตาข่ายหรือเก็บในตะกร้าที่โปร่งในห้อง
-
ฟักทอง
ฟักทองเป็นผักอีกชนิดที่ไม่ควรเก็บในตู้เย็น เพราะอุณหภูมิที่ต่ำอาจทำให้ฟักทองเน่าเสียเร็วและสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการ หากยังไม่หั่น สามารถเก็บฟักทองไว้ในที่เย็นและแห้ง แต่หากหั่นแล้ว ควรห่อส่วนที่หั่นด้วยพลาสติกห่ออาหารเพื่อป้องกันการเกิดออกซิเดชัน
วิธีการหากจำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น: หากหั่นแล้ว ให้ห่อส่วนที่หั่นด้วยพลาสติกห่ออาหารและเก็บในช่องเย็น ใช้ภายใน 5-7 วัน ส่วนฟักทองที่ยังไม่หั่น ควรเก็บไว้ข้างนอกจะดีที่สุด หลีกเลี่ยงที่ชื้นหรือที่ร้อนจัด
-
มะเขือยาว
มะเขือยาวเป็นผักที่ไวต่ออุณหภูมิที่ต่ำ เมื่อเก็บในตู้เย็น มะเขือยาวจะนิ่ม สีเข้มขึ้น และสูญเสียความสดใหม่ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือเก็บมะเขือยาวในอุณหภูมิห้อง และควรซื้อให้พอใช้ในแต่ละวัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเก็บไว้นานจนลดคุณภาพ
วิธีการหากจำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น: หากต้องการเก็บไว้ ให้ห่อมะเขือยาวด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์และเก็บในช่องผักที่อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส ใช้ภายใน 3-5 วันเพื่อป้องกันไม่ให้มะเขือยาวนิ่มลง วิธีที่ดีที่สุดคือซื้อให้พอใช้และเก็บไว้ข้างนอกเพื่อใช้ทันที