เสี่ยเจ้าอู่ซ่อมรถ ขี่จยย.ไปเอาอะไหล่อู่น้องสาว ถูกฟอร์ดป้ายแดงชนดับสลด เผยคันชนฝ่าสัญญาณไฟ แถมเข้าผิดช่องทางเดินรถ รอสอบปากคำวัยรุ่นที่ขับขี่

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 24 มี.ค.2568 พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ พรรชณา สว.(สอบสวน) สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนรถจยย.มีผู้เสียชีวิต บริเวณสี่แยกไฟแดงบางพฤกษ์ ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงและเขตบางเเค กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อม แพทย์เวรนิติเวช รพ.ศิริราช อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นสี่แยกไฟแดงก่อนถึงหน้าปั๊มน้ำมันบางจาก ฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าแยกกำนันแม้น แบ่งเป็นถนน 3 เลน เหตุเกิดเลนซ้ายสุด พบรถยนต์อเนกประสงค์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 4 ประตู สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ก 6038 นนทบุรี จอดอยู่สภาพกันชนหน้ายุบเสียหาย ตรวจสอบบริเวณใต้ท้องรถ พบซากรถจยย. ยามาฮ่า เจอาร์ 100 สีน้ำเงิน ทะเบียน 8 ขธ 6866 กรุงเทพมหานคร ถูกชนล้มตะแคงพังเสียหายยับเยินติดคาอยู่ใต้ท้องรถ

ใกล้กันพบร่างนายสด แซ่ลี้ อายุ 62 ปี เป็นเจ้าของอู่-ช่างซ่อมรถจยย.(สมบัติ เจริญยนต์) สภาพนอนหงายจมกองเลือด มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะขวา สวมเสื้อสีน้ำเงินมีแจ็คเก็ตคลุมสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงวอร์มสีน้ำเงิน นอนเสียชีวิตบนพื้นถนน ตรงสี่แยกก่อนถึงจุดเกิดเหตุ พบร่องรอยขูดบนพื้นถนนยาวประมาณ 20 เมตร คาดเป็นจุดที่ผู้ตายถูกชน โดยทางภรรยาและครอบผู้ตายนั่งเฝ้าร่าง ร่ำไห้ ใจจะขาดอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ

สอบสวนพยานทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายซึ่งเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถจยย. อยู่ซอยศาลธนบุรี 17 ถนนกำนันแม้น กำลังขับขี่รถจยย. เพื่อไปเอาอะไหล่ที่อู่ของน้องสาว ที่อยู่ถนนบางแค ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 1 กิโลกว่าๆ โดยผู้ตายขับขี่จยย. มาจากถนนกำนันแม้น ตรงเข้าเส้นกัลปพฤกษ์ เมื่อมาถึงสี่แยก กำลังจะเลี้ยวขวา เข้าถนนบางแค จู่ๆ มีรถยนต์ฟอร์ด เอเวอเรสต์ คู่กรณี ขับตรงมาจากถนนกัลปพฤกษ์ในเลนซ้ายสุด ซึ่งเป็นเลนเลี้ยว

ประกอบกับเป็นช่วงไฟเหลือง รถยนต์ดังกล่าวได้ขับพุ่งตรงฝ่าสัญญาณไฟชนรถจยย.ผู้ตายที่เลี้ยวขวามา ก่อนจะลากร่างและรถ จยย.ไปไกล กว่า 20 เมตร ส่งผลให้ศีรษะผู้ตายไปกระแทกกับก้อนหินริมฟุตปาธเสียชีวิต โดยคนขับรถยนต์คู่กรณีเป็นชายวัยรุ่น 2 คน ยังไม่พร้อมให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่จุดเกิดเหตุ พร้อมเชิญพยานและคนขับรถคู่กรณีไปสอบปากคำที่ สน. ส่วนร่างผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่มอบให้อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งไปชันสูตรเพิ่มเติมที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช ก่อนประสานญาติรับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป