ลอบขนยาไอซ์ 300 กก. ขับรถยนต์ตามกันเป็นขบวน 3 คัน ตร.รวบได้ 1 คน ที่เหลือหนีรอดไปได้

Author:

น.1 ขานรับนโยบายรัฐบาลปราบปรามยาเสพติด รวบหนุ่มการไฟฟ้า ขนยาไอซ์ 300 กก. สารภาพทำตั้งแต่ปี2567 ส่วนเครือข่ายที่เหลือหนีไปได้

วันที่ 21 มีนาคม 2568 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น., พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก. สปพ.

ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายพิทัก หรือทัก อายุ 31 ปี พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนัก 332 กิโลกรัม คีตามีน น้ำหนัก 18 กิโลกรัม รถยนต์ จำนวน 2 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สืบสวนทราบว่า มีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดพื้นที่ ต.สวนแตง จ.สุพรรณบุรี ไปรับยาเสพติดแล้วนำกลับมาซ่อนไว้บริเวณบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 5 ต.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

ต่อมาวันที่ 19 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 20.00 น. กลุ่มผู้ต้องหาขับรถยนต์ จำนวน 3 คัน จากพื้นที่ ต.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ขับมุ่งหน้าพื้นที่ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท แล้วกลับทิศทางมุ่งหน้า อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โดยรถยนต์ทั้ง 3 คันมีลักษณะขับตามกันเป็นขบวน ทิ้งระยะห่าง จึงเชื่อว่ากลุ่มเครือข่ายลักลอบไปรับยาเสพติดแล้ว กำลังนำกลับมาเก็บซุกซ่อนไว้บ้านหลังดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สะกดรอยตามมา กระทั่งเวลาประมาณ 23.20 น. วันเดียวกัน รถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ขับเข้ามาจอดภายในที่จอดรถของบ้านหลังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวขอตรวจค้นจับกุม พบ นายพิทัก กับพวกวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายพิทัก พร้อมตรวจยึดยาเสพติดของกลาง

นายพิทัก ให้การรับสารภาพว่า ตัวเองทำงานเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าภูมิภาค ในอำเภออู่ทอง โดยเริ่มรับยาไอซ์ มาจำหน่ายตั้งแต่ช่วงปลายปี2567 โดยวิธีการจะนัดรับยากับเครือข่ายจากทางภาคเหนือมาส่งยังจุดนัด

จากนั้นผู้ต้องหากับพวกจะเดินทางไปรับยาแล้วนำมาพักไว้ที่บ้านหลังดังกล่าวเพื่อรอการกระจายให้เครือข่ายในพื้นที่ จังหวัดสุพรรณและพื้นที่โดยรอบ

จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน

ส่วนกลุ่มเครือข่ายได้อาศัยความมืดและความชำนาญพื้นที่ หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *