จับแล้ว 2 หนุ่ม ดริฟต์รถ กลางสี่แยก ตกใจขับรถหนี ทิ้งรถวิ่งเข้าป่า ขัดขืนไม่ยอมให้จับ โวยตร.ลั่น พบเป็นชาวไนจีเรีย วุ่นพูดอังกฤษไม่ได้ มีคดีติดตัว
กรณีเมื่อวันที่ 11 มี.ค.68 เวลาประมาณ 22.30 น. เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองภูเก็ต และในเฟซบุ๊กในเพจโหดจัง จังหวัดภูเก็ตว่า มีรถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า รุ่นมาสด้า 2 สีขาว ไม่ทราบป้ายทะเบียน ขับขี่ด้วยความประมาทหวาดเสียวบนท้องถนน (ขับหมุนเป็นวงกลมกลางแยกไฟแดงเกาะแก้วและแยกดาราสมุทร) บริเวณแยกเกาะแก้ว ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต จนถึงบริเวณแยกดาราสมุทร ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
เมื่อวันที่ 12 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณแยกบางคู ถ.เทพกระษัตรี ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 11 มี.ค.68 เวลาประมาณ 21.58 น. พบว่า ขณะรถยนต์คันดังกล่าวกำลังขับขี่ด้วยความประมาทหวาดเสียวนั้น มีเจ้าพนักงานตำรวจปฏิบัติหน้าที่จราจร (ทราบภายหลังเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ถลาง)
พบเห็นจึงขับไล่ตามอย่างกระชั้นชิด จึงสามารถเห็นป้ายทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าว คือ ทะเบียน กอ 2990 ภูเก็ต (ทราบภายหลัง) แต่ไม่สามารถติดตามได้ทัน เนื่องจากรถยนต์คันดังกล่าวขับขี่ด้วยความเร็วสูงไปตามถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (บายพาส) มุ่งหน้าไปยังแยกเซ็นทรัล ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต
หลังทราบเรื่องนำโดย พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.อ.เอกลักษณ์ บุญแสงเจริญ ผกก.สืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมตำรวจชุดจับกุมสืบทราบรายละเอียดดังกล่าว จึงดำเนินการติดตามต่อเนื่อง จนไปพบรถยนต์คันทะเบียน กอ 2990 ภูเก็ต อยู่บริเวณ ซอยเกาะแก้ว 23 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวพบเห็นเจ้าพนักงานชุดจับกุม จึงขับหลบหนี
พนักงานชุดจับกุมจึงดำเนินการไล่ติดตาม เพื่อจับกุมและระงับเหตุ จนไปถึงบริเวณบ้านโบราณภายในซอยนานาชาติ 2 ม.2 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นซอยตัน รถยนต์คันดังกล่าวไม่สามารถขับหลบหนีต่อไปได้ ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ลุกออกจากรถและวิ่งหลบหนีการจับกุม เข้าไปภายในป่ารก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงวิ่งไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด
จนถึงตัวผู้ขับและผู้โดยสารรถยนต์คันดังกล่าว ระหว่างการจับกุมตัวทั้ง 2 ไม่ได้สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงขาสั้น ต่อสู้ขัดขืนการจับกุม มีการกอดรัดฟัดเหวี่ยง ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารล้ม และมีบาดแผลตามร่างกาย พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมมีบาดแผลถลอกขณะเข้าจับกุม
เบื้องต้นสามารถช่วยกันควบคุมตัวไว้ได้ จึงทราบว่าบุคคลทั้ง 2 เป็นชาวต่างชาติ ผิวดำ ไม่ทราบชื่อและสกุล และมีอาการมึนเมา พูดจาโวยวายอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมแจ้งว่าจะต้องถูกจับแจ้งข้อกล่าวหา และสิทธิของผู้ต้องหาเป็นภาษาอังกฤษผ่านแอพลิเคชั่นแปลภาษา แต่ผู้ถูกจับทั้ง 2 ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ และประกอบกับเป็นเวลากลางคืนเร่งด่วน จึงไม่สามารถหาล่ามภาษาท้องถิ่นของชาวต่างชาติดังกล่าวได้
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมดำเนินการตรวจสอบจากผู้ถูกจับไม่มีเอกสารประจำตัวแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมายังสภ.เมืองภูเก็ตเพื่อถ่ายภาพหน้าตรงและลายนิ้วมือของผู้ต้องหา เพื่อไปดำเนินการตรวจสอบพิสูจน์ทราบบุคคล ปรากฏว่า พบข้อมูลในสารบบ ตรงกับบุคคลชื่อ นายอานาเมเร จอร์จ สัญชาติ ไนจีเรีย
ตรวจสอบพบอีกว่ามีหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในอาญาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดและมียาเสพติดให้โทษประเภท2 (โคเคน)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” (หลบหนีไม่มาศาลตามกำหนดนัด) ขาดอายุความวันที่ 4 สิงหาคม 2581 ส่วนอีกรายยังไม่ทราบชื่อนามสกุลเพราะไม่มีเอกสารพาสสปอร์ต