ผงะชายวัย 45 ปี นอนเสียชีวิตปริศนาภายในร้านรับซื้อของเก่า สภาพเน่าเปื่อยนาน 8-10 วัน หลังหายตัวออกไปจากบ้าน ไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ เร่งส่งร่างชันสูตร
เมื่อเวลา 12.21 น.วันที่ 28 ก.พ.2568 ร.ต.อ.นรชัย แก้วหนู รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตมาเป็นระยะเวลาหลายวัน ภายในร้านรับซื้อของเก่า ถนนบ้านโพธิ์ซอย7 หมู่ 3 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง (หลังตลาดนัดบ้านโพธิ์) ภายหลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ
ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท. เมธี ภิญโญประการ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สนธยา ด้วงเพ็ชร สว.สส. ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง แพทย์เวร รพ.ศูนย์ตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง)
ที่เกิดเหตุชื่อร้าน เจ๊รัตน์รับซื้อของเก่า เข้าไปภายในมุมด้านหลังร้าน บนพงหญ้าติดกับเศษขยะของเก่า ไม่มีสิ่งของปิดทับ พบร่างของชายไทย สภาพนอนหงายหน้าเสียชีวิต ในสภาพเน่าเปื่อยเกือบหมดทั้งร่าง กระดูกและกะโหลกโผล่ มีหนอนไต่ขึ้นตามร่าง ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ลักษณะสวมเสื้อ นุ่งกางเกง และสวมรองเท้า คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-10 วัน
ต่อมาได้มีผู้เข้ามาขอดูศพ เนื่องจากได้มีญาติสูญหายออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา เมื่อเข้าไปดูต่างร้องไห้ระงม พร้อมยืนยันว่าผู้เสียชีวิตคือ นายวุฒิพงษ์ จุ้ยเริก หรือล้อ อายุ 45 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง โดยสามารถยืนยันได้จากชุดที่สวมใส่ก่อนออกจากบ้าน รวมทั้งแหวนที่สวมบริเวณนิ้วนางข้างขวา ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของบรรดาญาติพี่น้อง
ด้าน พี่ชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า น้องชายหายออกจากบ้านเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยตอนออกจากบ้าน ไม่มีใครเห็นว่าไปไหน ซึ่งบ้านอยู่ห่างจากจุดพบศพประมาณ 500 เมตร โดยหลังจากหายไปก็ได้ออกตามหากันทุกวัน ทั้งภายในป่าและในชุมชนเมือง รวมทั้งโพสต์เฟซบุ๊กประกาศตามหา และไปหาร่างทรงหมอดูต่างๆ บางหมอดูก็บอกว่าอยู่ในป่า บางหมอดูก็บอกว่าอยู่ในเมือง
ก่อนจะมีคนโทรมาว่าพบศพคนเสียชีวิต จึงมาดู ก็ยืนยันได้ว่าเป็นน้องชายจริง ซึ่งน้องชายได้หย่ากับภรรยาไปนานแล้ว รวมทั้งมีลูกด้วยกัน แต่ก็แยกกันอยู่ทั้งหมด โดยน้องชายอาศัยอยู่กับพ่อและแม่ ไม่ประกอบอาชีพ เนื่องจากสมองได้รับความกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุ และมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน ไขมัน ความดัน แทบจะทุกโรค รวมทั้งดื่มสุราแทบจะทุกวัน ทางญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต แต่ก็ยังไม่สามารถสรุป หรือคาดเดาได้ว่าน้องชายเสียชีวิตจากสาเหตุใด และมาเสียชีวิตในร้านนี้ได้ยังไง
ขณะที่ น.ส.กรรณิการ์ อายุ 41 ปี เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า บอกว่า ได้กลิ่นเหม็นเน่ามาประมาณ 3 วัน ซึ่งก็คิดว่าน่าจะมีแมวตายตรงมุมไหนสักมุมภายในร้าน โดยกลิ่นตีกันไปตีกันมาไม่รู้ว่าจุดไหน จนกระทั่งวันนี้ (28 ก.พ.) เห็นงู น่าจะเป็นงูจงอางเลื้อยอยู่ไม่ห่างจากจุดที่พบศพ จึงเดินตามหาแต่ไม่พบ
กระทั่งต้องนำของเก่าขึ้นรถไปส่งที่ จ.พัทลุง จังหวะนั้นได้เดินเข้าไป จะเอาสังกะสีบริเวณจุดนั้นพอดี ประกอบกับกลัวงูด้วยจึงหันมองรอบๆ จึงเห็นเข้ากับรองเท้า และกะโหลกคน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ที่ผ่านมาไม่เคยพบเห็นผู้ตายมาก่อน ส่วนกลางคืนก็ปิดประตูมิดชิด และไม่เคยมีอะไรผิดปกติมาก่อนหน้า และไม่ทราบว่าเข้ามาเสียชีวิตภายในร้านได้ยังไง
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถพิสูจน์สภาพร่างกายได้ว่ามีร่องรอยการถูกทำร้ายหรือไม่อย่างไร เนื่องจากสภาพศพเน่าเปื่อยเป็นอย่างมาก และยังไม่สามารถยืนยันสาเหตุแห่งการตายที่แท้จริงได้ จึงจะดำเนินการส่งร่างผู้เสียชีวิตไปยัง รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แน่ชัดต่อไป