แพรวพราว แสงทอง พูดแล้วสร้างกระแสคู่จิ้นกับพระเอกลิเกสุดฮอต ซัน วงศธร จริงไหม? ตอบดราม่าร้องเพลงไม่เต็มเสียง พร้อมเผยบทบาทแม่เลี้ยงเดี่ยว
ลำซิ่งตัวแม่ แพรวพราว แสงทอง ที่วันนี้ควงลูกๆ น้องนาริตะ กับ น้องโตเกียว มาเปิดโมเมนต์สุดน่ารัก และบทบาทคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว พร้อมเคลียร์สถานะหัวใจที่บอกเลยว่ามีหนุ่มๆ มารุมจีบเพียบ อีกทั้งยังเคลียร์ข่าวสร้างกระแสคู่จิ้นข้ามวงการกับพระเอกลิเกชื่อดัง ซัน วงศธร งานนี้ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์จริงๆ จะเป็นยังไง จะเป็นแค่คู่จิ้นหรือขยับมาเป็นคู่จริงแล้ว
โดย แพรวพราว ได้เปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง One31 ที่มีธัญญ่า ธัญญาเรศ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ลูก 2 แบ่งเวลายังไง?
แพรวพราว : เราจะมีพี่สาวแท้ๆ เลี้ยงเป็นหลักเลย แพรวออกคอนเสิร์ตทั้งเดือน มีเวลาพักอาทิตย์ละ 1-2 วัน ก็จะแวะเวียนมาหาลูก แต่จะวิดีโอคอลกันทุกวัน วันละหลายรอบด้วย
เด็กๆ เข้าใจไหม?
แพรวพราว : เข้าใจค่ะ มันเกิดความเคยชิน แต่เขาก็เข้าใจ ตอนแพรวอุ้มท้องน้อง แพรวทำงานตลอด จน 9-10 เดือน ก็ยังทำงาน พอถึงเวลาก็บอกเขาว่าไม่ไปทำงานนะ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจ แต่เราพยายามทำความเข้าใจ แม่ทำงานหาเงินนะ หลังๆ มาคือบ๊ายบาย แม่สู้ๆ นะ
นิสัยแต่ละคนเป็นยังไงบ้าง?
แพรวพราว : นิสัยแต่ละคนจะไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ การเลี้ยงดูคือเลี้ยงง่ายทั้งสองคน แต่คนเล็กจะซนกว่า แต่ถ้าเรื่องหวงแม่ นาริตะจะหวงมาก คือเมื่อก่อนมีเขาคนเดียว พอมีน้อง แล้วเราอุ้มน้อง เขาก็จะบอกว่าแม่อุ้มหนูบ้างสิ เวลาเราหอมน้อง เขาก็จะบอกว่าทำไมไม่หอมหนูด้วยล่ะ แต่ที่จริงเราหอมเขาก่อนนะ แต่เขาก็แบบไม่สิ ต้องเป็นฉันคนเดียว แต่เขารักน้องนะคะ แต่ด้วยความที่ว่าแต่ก่อนมีเขาคนเดียว ซึ่งเขาเป็นเด็กร่าเริงทั้งสองคนเลย คนพี่ว่าฉลาดแล้ว แต่คนน้องฉลาดมาก เราจะเปรียบเทียบแบบ คนนี้ตอนอายุเท่านี้เขาจะไม่ค่อยรู้จักศัพท์มากเท่าคนนี้ แต่คนนี้รู้จักหมดเลย คนพี่ฉลาดแต่ไม่สู้น้อง แต่เขาได้อย่างอื่น เขาจะชอบเต้น ชอบร้องมากกว่า
ลูกๆ มีแววเป็นศิลปินเหมือนคุณแม่ไหม?
แพรวพราว : ตอนนี้นาริตะมีแวว ชอบเต้นและแอคติ้งเขาได้ วันนั้นแพรวบอกว่าหนูเรามาถ่ายละครกันไหม ยังไงเหรอแม่ เอาแบบเป็นคอนเทนต์ เขาก็ทำตาม
นาริตะขึ้นเวทีครั้งแรกตอนอายุเท่าไหร่?
แพรวพราว : ตอนยังไม่ถึงขวบเลย เขาเป็นคนที่กลัวคน ตื่นเวที แต่เหมือนใจรัก อยากขึ้นเวที แต่พอขึ้นไปกลัว แต่ก็อยากแต่งตัว อยากสวย แต่ทุกวันนี้ไม่กลัวแล้ว
เห็นว่าคุณโตเกียวมีแววเป็นนักดนตรี?
แพรวพราว : เขาชอบเคาะจังหวะ แต่คนนี้เขาชอบหมอลำนะ แต่นาริตะมีความอินดี้วาไรตี้ แต่โตเกียวคือหมอลำแท้ๆ เลย
เป็นคุณแม่ที่ไม่ตีลูก?
แพรวพราว : ไม่ตีค่ะ เราจะใช้การคุยมากกว่า เหมือนนาริตะเขาคุยรู้เรื่อง เราก็บอกมานี่เดี๋ยวแม่ขอเคลียร์หน่อย แม่ขอคุยหน่อยนะ เราก็พยายามเหมือนเล่านิทาน เล่าเหตุและผลให้เขาฟัง ว่ามันเป็นอย่างนี้นะ สมมติเรื่องราวมันเป็นอย่างนี้ แล้วหนูต้องแบบนี้นะ
ตอนนี้นาริตะอยู่ในวัยเข้าเรียนแล้ว เป็นไงบ้าง เห็นว่าย้ายไปอยู่โรงเรียนนานชาติ?
แพรวพราว : ใช่ค่ะ เขาปรับตัวเร็วมาก วันแรกที่ไปโรงเรียนไม่ร้องไห้เลย ตอนที่บอกเขาว่าจะย้ายโรงเรียน ตอนแรกรับไม่ได้ ร้องไห้ หนูไม่อยากย้าย หนูคิดถึงเพื่อน แต่พอแม่ให้เหตุผลทำไมต้องย้าย อยากให้หนูเก่ง อยากให้หนูได้ภาษาอังกฤษเยอะๆ พอย้ายวันแรก เราก็หวั่นกลัวเขาร้องไห้ สะพายกระเป๋าเดินบ๊ายบาย เขาเก่งมาก ไม่มีงอแง ไม่มีความรู้สึกว่าเขาอยากไปเลย แม่เมื่อไหร่จะเปิดเทอม ไปแล้วสนุก เราก็ดีใจที่ย้ายเขามา ไม่เสียกำลังใจที่คุณแม่ตั้งใจให้เขามาตรงนี้
ก่อนช่วงจะย้ายโรงเรียนมา ตอนนั้นมีประเด็นดราม่าเกิดขึ้น แล้วมันมีผลกับเด็กไหม?
แพรวพราว : ไม่มีค่ะ ดูจากสภาพแวดล้อมแล้วไม่ได้มี ซึ่งแพรวกับพี่สาวค่อนข้างจะคุยกัน ให้เหตุผล
ตอนดราม่า นาริตะมีมาถามไหม?
แพรวพราว : ไม่มีเลยค่ะ มีแต่แบบแม่ในติ๊กต๊อกเห็นคลิปแม่เยอะมากเลย กับใครเหรอลูก ไม่บอก
นาริตะตอนนี้คุณแม่โสดไหม?
น้องนาริตะ : โสดค่ะ
สถานะหัวใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
แพรวพราว : ตอนนี้โฟกัสเรื่องงานและเรื่องลูกมากกว่า คนทักทายเข้ามามันก็มีบ้าง แต่เรายังไม่ได้โฟกัสตรงนั้น อยากทำงานให้เต็มที่และให้เวลากับลูก เวลาให้ลูกก็ไม่ค่อยจะมี ทำงานเดินสายตลอด
เวลาใครเข้ามาต้องให้ลูกเราดูก่อนไหม?
แพรวพราว : อันนี้ถูกต้องค่ะ อันนี้สมมตินะคะ สักวันนึงถ้ามีใครเข้ามามันต้องผ่านด่านคนนั้นก่อน คนนี้ก่อน
ตอนนี้ถือว่าปิดไหม?
แพรวพราว : ไม่ได้เปิดแล้วก็ไม่ได้ปิด ก็คุยได้
กระแสคู่จิ้นแรงมากกับ น้องซัน ไปเจอกันได้ยังไง?
แพรวพราว : เราเป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊กมาก่อน แล้วน้องเชิญเราไปรับเชิญลิเก ตอนแรกก็หวั่นว่าจะไปยังไง เราเป็นลำซิ่งแล้วไปร้องลิเก เขาบอกคุณพ่อ คุณแม่ชอบ เขาติดตามอยู่ เราก็เลยลองดู
พอไปแล้วเป็นยังไงบ้าง?
แพรวพราว : ก็ตื่นเต้นนะคะ ไม่รู้เขาไปจิ้นกันตอนไหน มีภาพคู่ออกมา เหมือนเราเล่นลิเกแล้วมีfc ตัดคลิปมาลง ตอนที่เราร้องเพลงคู่กันบนเวที ทำไมดูแล้วเขิน
ปกติเขาจิ้นคนวงการเดียวกัน แต่นี่ลิเกกับหมอลำ?
แพรวพราว : แพรวไม่เคยรู้จัก ไม่เคยไปนั่งดูลิเกเลย เราไม่เก่ง ไปฝึกหน้างาน แต่แม่เขาบอกว่าเอาเป็นสไตล์เราเลยลูก
เห็นว่ากระแสตอบรับดีเกินคาดมากๆ ?
แพรวพราว : มันก็ดีเกินคาด เพราะเราไม่คาดหวังเลย ไปเพราะรับปากไว้ ก็ไปให้มันเสร็จๆ เราไม่รู้ เราไม่มั่นใจอะไรเลย แต่พอกลับมา คลิปในติ๊กต๊อกเริ่มมา เริ่มเห็นคอมเมนต์ เริ่มตั้งบ้านคู่ เราก็มองว่าขนาดนั้นเลยเหรอ เราไปอ่านคอมเมนต์ก็มีกำลังใจ กระแสดี
ตั้งแต่วันที่ไปเล่นลิเกด้วยกันครั้งแรก จนถึงวันนี้ใช้เวลาเท่าไหร่แล้ว?
แพรวพราว : ตอนนี้จะ 4 เดือนค่ะ
4 เดือน เจอกันแล้วกี่ครั้ง?
แพรวพราว : หลายครั้งแล้วค่ะ เพราะว่าเราไปออกคอนเสิร์ตด้วยกัน หลังๆ มีงานคู่
เห็นว่าหลังๆ ผู้ชายมาถึงที่บ้าน?
แพรวพราว : ครั้งแรกเขามาไลฟ์สด คือเขาจะให้ไปลิเก แต่เขาให้เราโปรโมตงาน แต่เราจะโปรโมตงานกันยังไง แพรวก็แนะนำว่าต้องไลฟ์สดแล้วปักหมุดขายกลุ่มปิด เป็นบัตรออนไลน์ เขาบอกไม่ค่อยไลฟ์เลย แพรวก็บอกไม่ได้ ถ้าจะทำออนไลน์คุณต้องไลฟ์แล้วทีนี้เขาก็มาที่บ้าน เพราะแพรวไปไหนไม่ได้ วันว่างจะอยู่กับลูก ฉันว่างวันนี้ เธอมาได้ไหมล่ะ
แสดงว่าเจอเด็กๆ แล้ว?
แพรวพราว : ค่ะ เจอเด็กๆ แล้ว
เป็นยังไงบ้าง?
แพรวพราว : เขาเล่นกับเด็กปกติ
ทำงานด้วยกันมาหลายเดือนแล้ว แฟนคลับก็จิ้น เรามีคิดแว๊บๆ ไหม?
แพรวพราว : น้องเขาน่ารักค่ะ ความสามารถเขาเยอะ แต่สำหรับแพรวมองว่าโฟกัสงานดีกว่า อนาคตเราไม่รู้หรอก ถ้าเราจะพูดอะไรยังไง แต่ ณ ตอนนี้เราโฟกัสที่งาน น้องเขามีความสุขกับการทำงาน แพรวก็มีความสุขกับการทำงาน
ตอนนี้เป็นเพื่อนร่วมงาน แต่อนาคตจะเปลี่ยนแปลงยังไงเราก็บอกไม่ได้?
แพรวพราว : เป็นเพื่อนร่วมงานค่ะ มันเป็นเรื่องของอนาคต
มีบางคอมเมนต์บอกว่าทำไมเวลาร้องเพลง ถึงร้องไม่เต็มเสียง เวลาเราเจอแบบนี้ เราจะอธิบายยังไง?
แพรวพราว : เราออกงานทุกวัน บางทีมันจะมีเสียงแหบบ้าง เสียงแห้งบ้าง แต่ไม่ถึงกับเข้าโรงพยาบาล ถ้าใครติดตามศิลปิน บางคนถึงกับหาหมอ มันก็มีบ้าง เพราะว่าเสียงเราใช้ทุกวัน บางงานอาจจะมีเสียงแหบแห้ง อาจจะไม่เต็ม เพราะฉะนั้นมันก็เป็นเรื่องธรรมดา คนที่คอมเมนต์แพรวก็ปล่อยผ่านไป