เสนาหอย เกียรติศักดิ์ อุดมนาค มาบอกเล่าบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิตจากบริษัทที่กำลังรุ่งเรืองในวงการบันเทิงสูงสุด ต้องมาเป็นหนี้ 100 กว่าล้าน ในรายการ ขมคอ Story Podcast บอกว่า “เวลาทำบริษัทหรือทำอะไร วันแรกที่เราได้คุยกันไว้ว่าเราจะทำอะไรกันเพื่อน ๆ
เฮ้ย อะไรก็ได้ วันหนึ่งทำประสบความสำเร็จจริง ๆ พอมันเป็นล้าน พอมันเป็นสิบล้าน มันเป็นร้อยล้าน ไม่มีอะไรก็ได้หรอก ในโลกนี้ เวลาทำอะไร มันเป็นประสบการณ์ชีวิตจริง ๆ เราเคยทำบริษัทที่ โห เราทำมาแล้วทุกอย่างจริง ๆ เราสามคนทำมาแล้วทุกอย่าง บันเทิงยุคนั้นมีอะไรเราทำหมด
พอดิจิทัลมาจบ วันหนึ่งตื่นเช้ามา ทุกคนแยกย้าย เหลือเรา 2 คน เรามีอะไรกันเท่าไหร่ เปิดมาจำได้เลย 10.45 น. วันพุธ คุณมีหนี้อยู่ 106 ล้าน ได้ยินแบบนั้น น้ำตาไหลเลย จริงเหรอวะ ล้มละลาย วิลลี่ จับมือคนละครึ่ง จากนี้ไปจนหมด มึงกับกูอะไรก็ได้ หนี้สินคนละครึ่ง
ขายทุกอย่างหมดก็ยังไม่พอ จากวันนั้นเราบอกว่าเราไม่สามารถเป็นเจ้าของรายการทีวีได้อีกแล้วนะ เพราะเราไม่มีเงินทุนแล้ว เรามาเป็นนักแสดง พิธีกรรับจ้างกันนะ แล้วเอาเงินตรงนั้นเข้ามา เชื่อไหมทำงานเหมือนคนบ้า คนทักจะทำงานวันสุดท้ายใช่ไหม ไม่น่าเชื่อไม่เคยบอกใคร
เราทำแบบนี้ไม่มีรายจ่าย เราไปเสร็จ เรากินข้าวกอง กับ วิลลี่ คิดกันขนาดนั้น เราออกมาไม่มีค่าใช้จ่ายเลย ใช้อย่างประหยัดทุกอย่าง ทำไปเรื่อย ๆ จน 4 ปี แม่งหมดว่ะ โคตรภูมิใจ มองหน้ากันวันนั้นที่เราพูดกันว่าคนละครึ่งแม่งเจ๋งจริง ๆ ใครที่คิดจะทำอะไร อย่ายืมจมูกคนอื่นหายใจ
แม้แต่นิดเดียว โคตรเหนื่อยแต่พูดไม่ได้ เราทำทุกอย่าง เห็นงานแต่ไม่เคยเห็นเงินเลย 4 ปี ไม่เคยคิดว่าจะใช้หนี้ 106 ล้านได้หมด วิลลี่ สุภาพบุรุษ เราจะไม่ไหว ไม่ไหว วิลลี่ ก็จะบอกเอานี่ไปก่อน ดีใจกันที่ก้อนใหญ่ ๆ หายไปแล้ว เราอึดเหมือนกันนี่หว่า จากนี้เราทำอะไร
เราคงไม่ยืมจมูกคนอื่นหายใจอีก 4 ปีทำงานไม่มีวันหยุด ทำแบบไม่เสียดายที่เราต้องสนุกกับมัน ไม่เสียดายสิ่งที่เราต้องใช้หนี้เขาร้อยล้าน” ถามว่าวันนั้นที่ วิลลี่ เลือกใช้หนี้ ไม่ล้มละลาย เสนาหอย กล่าวว่า “หลายคนบอกมีเพื่อนเยอะ ๆ ดี แต่ผมรู้สึกว่ามีคนเดียว แล้วเขาสามารถอยู่กับเรา
มีคนบอกการทำธุรกิจกับเพื่อนหรือครอบครัว มันมีโอกาสล้มได้สูงมาก เพราะเรื่องเงินจะทำร้ายคุณในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ผมรู้สึกเขากับผม เรื่องเงิน ไม่ได้รู้สึก บางครั้งเรามีเราใช้ก่อน ดีใจที่มีเพื่อนแบบนี้ ที่พูดวันนั้น ผมเชื่อว่าวันนั้นถ้าเป็นอีกแบบหนึ่ง ชีวิตเราไม่มีความสุขหรอก
ผมเหนื่อยมา แล้วมันมีความสุขตอนนี้ที่ไม่โกงใคร แต่ใช้ระยะเวลาหน่อย ขอบคุณทุกคนที่รอเรา สมมติว่าเขาฟ้องเราก็คงเป็นอีกแบบหนึ่ง แต่ วิลลี่ ไปคุยมาเองทุกซัพพลายเออร์ว่าผมใช้นะ แต่อาจจะช้าหน่อย ถ้าวันนั้นเขาไม่ให้โอกาสเรา ฟ้องเราทุกคน เราก็คงล้มละลาย
ไม่มีโอกาสในการทำงานก็ได้ วันนั้นก็นอนไม่หลับ คุยกันร้องไห้กันทุกวัน เราร้องก่อน วิลลี่ มันไม่ร้องหรอก เอาไงดีวะ คิดทุกวัน จะจัดการมันยังไง ไปทีละขั้น ตอนนั้นเหนื่อยสุด ๆ แต่มันมีรอยยิ้มวันจบ”