กลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบันฯ ยื่นปอท. สอบ กามิน เน็ตไอดอลเกาหลี เข้าข่าย ม.112 หรือไม่
วันที่ 29 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 12.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ริมถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม.ด้านหน้าปราสาทแดนเนรมิตเก่า นายทรงชัย เนียมหอม ประธานกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน (ปภส.) เดินทางมายื่นหนังสือให้ บก.ปอท. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตรวจสอบ จี กามิน อินฟูเอนเซอร์ สาวชาวเกาหลี อายุ 31 ปี อดีตคู่จิ้น แน็ก ชาลี ว่า เข้าข่ายความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 112 หรือไม่
นายทรงชัย กล่าวว่า ในฐานะประชาชนคนไทยใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 42 พบเห็นความไม่ถูกต้องจึงรวบรวมหลักฐานมามอบให้ บก.ปอท.ตรวจสอบว่ากรณีดังกล่าวจะมีความผิดหรือไม่อย่างไร
เมื่อวานได้เห็นจากสื่อออนไลน์กรณีที่ กามิน เดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 3 พ.ย.67 แสดงกริยาท่าทางคล้าย หรือลอกเลียนแบบบุคคลเบื้องสูง ซึ่งเคยเกิดขึ้นในที่ชุมนุมความเห็นต่างทางการเมืองเมื่อปี 63 และถูกดำเนินคดีศาลพิพากษาโทษไปแล้ว
วันนี้จึงรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อออนไลน์และทางโซเชียลฯ วันนี้จึงรวบรวมหลักฐานจากสื่อออนไลน์และโซเชียล มาร้องให้ บก.ปอท.ตรวจสอบหากพบว่ามีความผิดก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายทรงชัย กล่าวต่อ ก่อนหน้านี้ได้ยื่นหนังสือขอให้ ผบก.ปอศ.ตรวจสอบเรื่องการเข้าเมืองและมารับงานต่างๆ มีรายได้จากการโชว์ตัวและโปรโมทสินค้า การไลฟ์ต่างๆว่า มีการหักภาษี ณ ที่จ่ายยื่นกรมสรรพากรจริงหรือไม่ด้วย
นอกจากนี้ ยังได้ทำหนังสือเอกสารร้องขอให้ สตม.ตรวจสอบการเดินทางเข้าเมืองของกามิน เพื่อประกอบอาชีพโดยใบอนุญาตการทำงาน (work permit) หมดอายุ หรือเข้าเมืองเพื่อทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตการทำงาน (work permit)หรือไม่อย่างไร
ซึ่งได้รับแจ้งว่า จีกามิน เข้าประเทศไทยด้วย visa non B (Non-Immigrant ประเภท B) ซึ่งมีข้อมูลว่าเธอถูกเลิกจ้างเมื่อ 30 ส.ค.67 ระยะเวลาที่จะหานายจ้างภายใน 60 วันก็จะสิ้นสุดลงสิ้นเดือน ต.ค.
ต่อมา กามิน เดินทางเข้าประเทศไทย 3 พ.ย. ดังนั้นใครเป็นนายจ้าง ทาง ตม.ไทยจะเป็นคนดำเนินการสืบหาว่าใครเป็นนายจ้าง ถ้าไม่มีการเข้ามาทำงานก็จะมีความผิด ถ้า ตม.แจ้งว่าไม่มีนายจ้างตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.ก็จะต้องถูกเพิกถอนวีซ่า
หลังจากยื่นหนังสือร้อง ปอท.ตรวจสอบแล้วก็จะเดินทางไปแจ้งความที่ สตม.(สวนพลู) ต่อเพื่อให้ ตม.ดำเนินคดีกับกามิน ซึ่งถ้ามีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแล้วองค์ประกอบครบ ทางพนักงานสอบสวนจะส่งหมายเรียกไปที่สถานทูตเกาหลีใต้ เชิญตัวมาให้ปากคำ หากไม่มาก็จะพิจารณาออกหมายจับกันต่อไป เบื้องต้น พนักงานสอบสวน บก.ปอท.รับหนังสือไว้เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป