เปิดภาพนาที ทลายเครือข่าย นายแพย์บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ คดีฉ้อโกง หลอกลงทุน เสียหายกว่า 7,500 ล้านบาท ผู้เสียหายเพียบ จ่อยึด อายัดทรัพย์สิน
จากกรณีมี ผู้เสียหายทยอยมาแจ้งความ สน.ห้วยขวาง ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 จำนวน 247 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 7,500 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้รับการติดต่อชักชวนจากตัวแทนบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ว่าเป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุนให้ นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ และครอบครัว โดยแจ้งว่านำไปลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ เช่น โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง, โครงการเวลเนสเซ็นเตอร์, สร้างโรงพยาบาลใน สปป.ลาว, ร่วมลงทุนโรงพยาบาลในเวียดนาม เป็นต้น
ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” สน.ห้วยขวาง จึงรายงานเหตุดังกล่าวมายัง บก.น.1 และได้มีการตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2567
ความคืบหน้าวันที่ 23 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. เร่งรัดดำเนินการทลายเครือข่ายหมอบุญโดยด่วน เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก และมูลค่าความเสียหายสูง
โดยเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับ นพ.บุญ วนาสิน ผู้ต้องหากับพวกรวม 9 คน และศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 5645 – 5653 /2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67
เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้จำนวน 6 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการนี้เพิ่มเติมและเร่งติดตาม สืบค้น ยึด อายัด ทรัพย์สินต่าง ๆ ของผู้ต้องหา เพื่อนำมาคืนสู่ผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด
ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. นำกำลังชุดสืบนครบาล สืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.ศิวิมล อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5647/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย. 67 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”
น.ส.จิดาภา อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5646/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย. 67 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” จับกุมได้ที่ สำนักงานกฎหมาย ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ทั้งนี้ยังได้ตรวจยึดรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น EQS450+ สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ระหว่างนี้ชุดจับกุมกำลังนำตัวพร้อมของกลางไปที่ บช.น. เพื่อขยายผลต่อไป