จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหยิบกระเป๋าผิดใบ แต่กระเป๋าที่หยิบผิดนั้นกลายเป็น กัญชา 24 กิโลกรัม ซึ่งหลายประเทศถือว่าเป็นสิ่งของผิดกฎหมายร้ายแรง
การนำสิ่งของผิดกฎหมายเดินทางออกนอกประเทศ ถือเป็นความผิด และหากยิ่งเป็นสารเสพติด สิ่งต้องห้าม แน่นอนว่า ถือเป็นความผิดใหญ่หลวงมาก และกฎหมายบางประเทศก็มักจะเข้มงวดและโทษสูงมาก
โพสต์ดังกล่าวได้รับการโพสต์โดย คุณ Heng On Tour ซึ่งเป็นหัวหน้าทัวร์ในทริปนี้ซึ่งพาลูกทัวร์ผ่านเหตุการณ์ดังกล่าวมาได้อย่างเรียบร้อยได้โพสต์เรื่องราวทั้งหมดเอาไว้ในกลุ่มคนชอบตะลอนเที่ยวญี่ปุ่น
โพสต์ดังกล่าวระบุว่า “เคสนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับลูกค้าและตัวเอง… เริ่มเรื่องลูกค้าไม่เคยเดินทางออกต่างประเทศเลยแม้แต่ครั้งเดียวทุกอย่างลูกเป็นคนจัดการให้ ซื้อตั๋วสายการบินภายในประเทศ โดยเวียทเจ็ทแอร์ไลน์ จากสนามบินสุราษฎร์เดินทางสู่สุวรรณภูมิ…
โหลดกระเป๋าสัมภาระมาสองชิ้น ใบสีดำและสีแดง ปรากฏว่าสีแดงถูกแต่สีดำหยิบผิดใบมา ไปหยิบของฝรั่งมาซึ่งไม่ได้ตรวจเช็คว่ากระเป๋าถูกหรือไม่
ส่วนฝรั่งที่โหลดกระเป๋าสัมภาระสีดำมาพอไม่มีกระเป๋าตัวเองก็มาแจ้งสายการบินเจอสัมภาระลงเหลืออยู่หนึ่งใบ สายการบินพยายามโทรตามตามเบอร์ที่ออกตั๋ว ปรากฏลูกสาวไม่ได้พกโทรศัพท์ไปด้วยเลยไม่ได้รับสาย
คุณแม่คุณพ่อก็ไม่ได้สังหรณ์ใจหลังจากรับกระเป๋าเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่งรออยู่ที่สุวรรณภูมิเกือบ 4 ชั่วโมงโดยไม่ได้เปิดกระเป๋า และคิดว่าเป็นกระเป๋าของตัวเอง
ถึงเวลาหนึ่งทุ่มครึ่งทีมงานนัดหมายเวลาลูกค้าหลังจากรับลูกค้าก็ติดแท็กสัมภาระและทำการโหลดกระเป๋าสายการบินไทยเพื่อที่จะมุ่งหน้าสู่นาริตะโตเกียว
หลังจากมาถึงสนามบินนาริตะโตเกียวผ่านการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อย หัวหน้าทัวร์รับกระเป๋าสัมภาระและให้ลูกค้าเปิดเพื่อที่จะทำการล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนเสื้อผ้า คุณพ่อคุณแม่เปิดกระเป๋าไม่ได้เลยโทรหาลูกสาวให้ดูกระเป๋าปรากฏลูกสาวบอกไม่ใช่กระเป๋าใบนี้ ได้แจ้งหัวหน้าทัวร์ หัวหน้าทัวร์ตรวจสอบมีสติกเกอร์บาร์โค้ดเป็นชื่อฝรั่ง
ยืนยันว่ากระเป๋าผิดใบแน่นอน.. หัวหน้าทัวร์สังหรณ์ใจเลยอยากเปิดกระเป๋าดูก่อน ตัดสินใจปลดล็อคกระเป๋าและให้ลูกค้าถ่ายวิดีโอก่อนทำการเปิด หลังจากเปิดออกมาพบ กัญชาอบแห้ง 24 กิโลกรัม ภายในกระเป๋าที่หยิบผิดมา
หัวหน้าทัวร์ติดต่อแจ้งศุลกากรสนามบินหลังจากนั้นสอบสวนยาวเช้ายันเย็นตั้งแต่8.00-17.30น. น้ำไม่ได้ดื่มสักหยดข้าวไม่ได้ทานซักเม็ด
แต่สุดท้ายด้วยความบริสุทธิ์ใจในการสำแดงสิ่งของทำให้ทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าตัวลูกค้าและหัวหน้าทัวร์ไม่ได้มีความตั้งใจจะนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น
หัวหน้าทัวร์และลูกค้าทั้งสองผ่านเข้าสู่ประเทศได้อย่างปลอดภัยในเวลา17.50 น. ความประมาทเลินเล่อความไม่ใส่ใจอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ที่อาจจะบานปลายไปกว่านี้ได้ดีที่วันนี้แก้ไขปัญหาต่างๆไปได้ด้วยดีส่วนคณะที่เหลือท่องเที่ยวได้ตามปกติ
สรุป วันนี้จากต้องไปนอนฟูจิหัวหน้าทัวร์และลูกค้าอีกสองคนต้องมาเปิดโรงแรมนอนแถวแถวนาริตะ พรุ่งนี้ค่อยเข้าเมืองโตเกียว
ฝากคำถามทิ้งไว้กับกฎหมายประเทศไทยและการตรวจของการท่าอากาศยาน กัญชาเคสนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับลูกค้าและตัวเอง…
เริ่มเรื่องลูกค้าไม่เคยเดินทางออกต่างประเทศเลยแม้แต่ครั้งเดียวทุกอย่างลูกเป็นคนจัดการให้ซื้อตั๋วสายการบินภายในประเทศโดยเวียทเจ็ทแอร์ไลน์จากสนามบินสุราษฎร์เดินทางสู่สุวรรณภูมิ…
โหลดกระเป๋าสัมภาระมาสองชิ้นใบสีดำและสีแดง ปรากฏว่าสีแดงถูกแต่สีดำหยิบผิดใบมา ไปหยิบของฝรั่งมาซึ่งไม่ได้ตรวจเช็คว่ากระเป๋าถูกหรือไม่
ส่วนฝรั่งที่โหลดกระเป๋าสัมภาระสีดำมาพอไม่มีกระเป๋าตัวเองก็มาแจ้งสายการบินเจอสัมภาระลงเหลืออยู่หนึ่งใบสายการบินพยายามโทรตามตามเบอร์ที่ออกตั๋วปรากฏลูกสาวไม่ได้พกโทรศัพท์ไปด้วยเลยไม่ได้รับสาย
คุณแม่คุณพ่อก็ไม่ได้สังหรณ์ใจหลังจากรับกระเป๋าเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่งรออยู่ที่สุวรรณภูมิเกือบ 4 ชั่วโมงโดยไม่ได้เปิดกระเป๋า และคิดว่าเป็นกระเป๋าของตัวเอง
ถึงเวลาหนึ่งทุ่มครึ่งทีมงานนัดหมายเวลาลูกค้าหลังจากรับลูกค้าก็ติดแท็กสัมภาระและทำการโหลดกระเป๋าสายการบินไทยเพื่อที่จะมุ่งหน้าสู่นาริตะโตเกียว
หลังจากมาถึงสนามบินนาริตะโตเกียวผ่านการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อย หัวหน้าทัวร์รับกระเป๋าสัมภาระและให้ลูกค้าเปิดเพื่อที่จะทำการล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนเสื้อผ้า
คุณพ่อคุณแม่เปิดกระเป๋าไม่ได้เลยโทรหาลูกสาวให้ดูกระเป๋า ปรากฏลูกสาวบอกไม่ใช่กระเป๋าใบนี้ได้แจ้งหัวหน้าทัวร์หัวหน้าทัวร์ตรวจสอบมีสติกเกอร์บาร์โค้ดเป็นชื่อฝรั่ง
ยืนยันว่ากระเป๋าผิดใบแน่นอน.. หัวหน้าทัวร์สังหรณ์ใจเลยอยากเปิดกระเป๋าดูก่อน
ตัดสินใจปลดล็อคกระเป๋าและให้ลูกค้าถ่ายวิดีโอก่อนทำการเปิด หลังจากเปิดออกมาพบ กัญชาอบแห้ง 24 กิโลกรัม ภายในกระเป๋าที่หยิบผิดมา
หัวหน้าทัวร์ติดต่อแจ้งศุลกากรสนามบินหลังจากนั้นสอบสวนยาวเช้ายันเย็นตั้งแต่ 8.00-17.30น. น้ำไม่ได้ดื่มสักหยดข้าวไม่ได้ทานซักเม็ด
แต่สุดท้ายด้วยความบริสุทธิ์ใจในการสำแดงสิ่งของทำให้ทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าตัวลูกค้าและหัวหน้าทัวร์ไม่ได้มีความตั้งใจจะนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น
หัวหน้าทัวร์และลูกค้าทั้งสองผ่านเข้าสู่ประเทศได้อย่างปลอดภัยในเวลา17.50น.
ความประมาทเลินเล่อความไม่ใส่ใจอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ที่อาจจะบานปลายไปกว่านี้ได้ดีที่วันนี้แก้ไขปัญหาต่างๆไปได้ด้วยดีส่วนคณะที่เหลือท่องเที่ยวได้ตามปกติ
สรุป วันนี้จากต้องไปนอนฟูจิหัวหน้าทัวร์และลูกค้าอีกสองคนต้องมาเปิดโรงแรมนอนแถวแถวนาริตะ พรุ่งนี้ค่อยเข้าเมืองโตเกียว
ฝากคำถามทิ้งไว้กับกฎหมายประเทศไทยและการตรวจของการท่าอากาศยาน กัญชา 24 กิโลสามารถผ่านสนามบินสุราษฎร์มาลงสุวรรณภูมิได้โดยไม่มีการตรวจสอบ กัญชา 24 กิโลสามารถผ่านสนามบินสุวรรณภูมิมาจนถึงนาริตะได้โดยไม่มีการตรวจสอบเช่นกัน
นี่หรือมาตรฐานประเทศไทย ขอบคุณทุกคนที่แสดงความห่วงใยเข้ามาครับขอบคุณทุกจังหวะที่ทำให้โชคดีและรอดมาได้โดยปลอดภัย ถ้าตั้งใจทำอะไรต้องทำให้มันสุด..บอกเลย สุดแล้ว
24 กิโลสามารถผ่านสนามบินสุราษฎร์มาลงสุวรรณภูมิได้โดยไม่มีการตรวจสอบ
กัญชา 24 กิโลสามารถผ่านสนามบินสุวรรณภูมิมาจนถึงนาริตะได้โดยไม่มีการตรวจสอบเช่นกัน นี่หรือมาตรฐานประเทศไทย
ขอบคุณทุกคนที่แสดงความห่วงใยเข้ามาครับขอบคุณทุกจังหวะที่ทำให้โชคดีและรอดมาได้โดยปลอดภัย ถ้าตั้งใจทำอะไรต้องทำให้มันสุด..บอกเลย สุดแล้ว”