แพทย์เผย 3 เหตุผล ดื่มน้ำอุ่น เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น ทำไมดีกว่า ดื่มน้ำร้อน มีข้อดี ข้อเสีย และข้อควรระวังอย่างไร
สภาพอากาศหนาวกำลังพัดพาประเทศไทยและอีกหลายประเทศ เป็นเหตุให้หลาย ๆ คนเริ่มมีอาการป่วย ไอ หรือไข้หวัดเพิ่มขึ้น เพื่อเสริมสุขภาพที่ดีให้กับร่างกาย นพ. หวงซวนออกมาเผยแพร่ว่า การดื่มน้ำอุ่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคหวัด และเปิดเหตุผล ทำไมต้องดื่มน้ำอุ่น
ตามรายงาน แพทย์อธิบายว่าการดื่มน้ำอุ่นสามารถช่วยให้ร่างกายอบอุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีประโยชน์ดังนี้
1. ป้องกันการสูญเสียความร้อนในร่างกาย อุณหภูมิของน้ำอุ่นใกล้เคียงกับอุณหภูมิแกนกลางของร่างกายมนุษย์ (37°C) ซึ่งสามารถช่วยให้ร่างกายรักษาอุณหภูมิให้คงที่ได้ โดยไม่ระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารหรือใช้พลังงานเพิ่มเติมเพื่อควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำเย็น น้ำอุ่นสามารถหลีกเลี่ยงการสูญเสียความร้อนอย่างรวดเร็วได้
2. ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต หลังจากที่น้ำอุ่นเข้าสู่ร่างกาย น้ำอุ่นจะกระตุ้นเยื่อเมือกในทางเดินอาหาร ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตทั่วร่างกาย และช่วยทำให้อาการแขนขาเย็นลง
3. ลดการกระตุ้นและสิ้นเปลืองพลังงาน ตามรายงาน แม้ว่าชาขิงร้อน ช็อกโกแลตร้อน หรือกาแฟร้อนจะทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น แต่อุณหภูมิสูงเกินไปอาจทำให้คอหรือผนังกระเพาะอาหารระคายเคืองได้
ดังนั้นน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิปานกลาง ซึ่งสามารถอุ่นอวัยวะภายในได้อย่างสบาย และป้องกันไม่ให้ร่างกายใช้พลังงานส่วนเกินเพื่อทำให้เครื่องดื่มร้อนเกินไปเย็นลง นอกจากนี้ ส่วนผสมของชาร้อน กาแฟร้อน และช็อกโกแลตร้อนเหล่านี้ยังมีคาเฟอีนและน้ำตาลในปริมาณมาก การดื่มมากเกินไปจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณ
ไขข้อสงสัย อากาศหนาวดื่มน้ำร้อนได้ไหม?
นพ. หวงซวนเผยว่า แน่นอนว่าได้ แต่เนื่องจากน้ำร้อนเกินไปมากกว่า 65°C อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ ได้แก่
1.แผลไหม้ของเยื่อเมือกในช่องปาก น้ำที่ร้อนเกินไป (เกิน 60°C) อาจทำให้เกิดการไหม้ที่เยื่อเมือกในช่องปาก ส่งผลให้เกิดรอยแดง, บวม, ปวดหรือแผลพุพองและแผลไหม้อย่างรุนแรงอาจทำให้เกิดแผลหรือการติดเชื้อ
2.ระคายเคืองเยื่อบุลำคอ โดยของเหลวที่ร้อนจัดอาจทำให้คอระคายเคืองจนเกิดอาการคัดจมูก บวม หรือแตก ส่งผลให้กลืนลำบากหรือเจ็บปวด นอกจากนี้ ยิ่งคุณดื่มร้อน คอของคุณก็จะยิ่งแห้ง นั่นเป็นเพราะเยื่อเมือกได้รับความเสียหาย
3. ระคายผนังด้านในของหลอดอาหาร โดยอุณหภูมิสูงอาจทำให้เยื่อบุหลอดอาหารไหม้ได้ ทำให้เกิดอาการแสบร้อน ปวดอย่างรุนแรง และกลืนลำบาก ในกรณีที่รุนแรงอาจเกิดแผลพุพองได้
ข้อควรระวังในการดื่มน้ำร้อนในช่วงอากาศหนาวเย็น ได้แก่ หลีกเลี่ยงอุณหภูมิของน้ำที่สูงเกินไป โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับน้ำดื่มคือ 50°C ถึง 60°C น้ำที่มีอุณหภูมิเกิน 65°C อาจทำให้เกิดแผลไหม้ที่หลอดอาหาร คอ และปาก และยังอาจเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งหลอดอาหารในระยะยาว
หลีกเลี่ยงการดื่มปริมาณมากในขณะท้องว่าง เพราะการดื่มน้ำร้อนมากเกินไปในขณะท้องว่างอาจกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารและทำให้รู้สึกไม่สบายท้อง ขอแนะนำให้รับประทานในปริมาณที่พอเหมาะและจับคู่กับอาหารบางชนิด
สุดท้ายนี้ สรุปได้ว่า ควรดื่มน้ำอุ่นจะดีกว่า น้ำอุ่นสามารถรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ ไม่กระตุ้นมากเกินไป และส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต เป็นวิธีที่อ่อนโยนและมีประสิทธิภาพในการรักษาความอบอุ่นในสภาพอากาศเย็น นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับเครื่องดื่มร้อนอื่น ๆ น้ำอุ่นดีต่อสุขภาพมากกว่าและเป็นภาระน้อยกว่า