รวบบัญชีม้า มิจฉาชีพหลอกปล่อยเงินกู้ในเฟซบุ๊ก ให้โอนค่าประกัน ค่าธรรมเนียมสุดท้ายสูญเงิน อ้างไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก ถ้าไม่ขายบัญชีม้า ก็ต้องขายยา
เมื่อวันที่ 22 พ.ย.67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น.
พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง และ พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์, ร.ต.อ.พงศธร อารีย์ รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น.
จับกุม นายวิพากษ์ อายุ 25 ปี ตามหมายจับ 2 หมายจับ 1.ศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 1095/2567 ลงวันที่ 15 พ.ย.2567 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน,
เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
2.ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.665/2567 ลงวันที่ 8 ต.ค.2567 ข้อหา“ร่วมกันหรือเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยการหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมฯ หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ และหรือยืนยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากของตนโดย มิได้เจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการของตนฯ” จับกุมหน้าบ้าน ซ.แจ้งวัฒนะปากเกร็ด17 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเก็ด จ.นนทบุรี
สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ผู้กล่าวหาเล่นเฟซบุ๊ก พบว่ามีเพจปล่อยเงินกู้และสินเชื่อปรากฎขึ้นในเฟซบุ๊ก จึงทักข้อความไปยังเพจดังกล่าว เพื่อสอบถามรายละเอียดในการกู้เงิน จากนั้นคนร้ายให้ผู้กล่าวหาแอดแอพพลิเคชันไลน์ เพื่อพูดคุยสอบถามรายละเอียด
ต่อมาวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ผู้กล่าวหาขอกู้เงินกับทางคนร้าย จำนวนเงิน 70,000 บาท โดยคนร้ายแจ้งกับว่าต้องโอนเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการกู้เงิน โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร รายละเอียด
ดังนี้ ค่าประกันเงินกู้ จำนวน 1,500 บาท ค่ารับยอดเงินกู้ จำนวนเงิน 2,000 บาท ค่าวางมัดจำผ่อนชำระเงินกู้ยอดแรก จำนวน 3,500 บาท ค่าอนุมัติเงินกู้ จำนวนเงิน 2,000 บาท ค่าธรรมเนียมธนาคาร จำนวนเงิน 5,000 บาท
ต่อมาคนร้ายจะให้ผู้กล่าวหาโอนเงินอีกจำนวน 2,000 บาท เพื่อเป็นค่าลงทะเบียนกับธนาคารในการทำธุรกรรมสำเร็จ ผู้กล่าวหาจึงเกิดความสงสัยและเชื่อว่าถูกหลอกลวงให้โอนเงินแน่นอน จึงไม่ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวเพิ่มไป
ต่อมาทราบว่าถูกคนร้ายหลอกลวงจริง เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย รวมเป็นจำนวนเงิน 14,000 บาท จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดหากทำการสอบสวนพบในภายหลังให้ได้รับโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีถึงที่สุด
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องให้การว่าเมื่อปี 2565 ตนขายบัญชีให้นางสวย ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ทราบเพียงว่านางสวยอาศัยอยู่ประเทศพม่า รู้จักผ่านโลกออนไลน์ นางสวยจึงโอนเงินค่าเปิดบัญชีให้ 3,000 บาท โอนเข้าบัญชีธนาคารที่ตนใช้อยู่ และตกลงขายให้กับนางสวย 3 บัญชีธนาคาร
ตนจึงเปิดบัญชี ธนาคารออนไลน์เพิ่มอีก 2 บัญชีรวม บัญชีที่ตนใช้อยู่เป็น 3 บัญชี ซึ่งตนยอมรับว่าการเปิดบัญชีม้าเป็นการเปิดบัญชีที่ผิดกฎหมาย โดยตนรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดผลเสียตามมาอย่างแน่นอน
ที่ตนทำไปเพราะไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก ที่อายุเพียงหนึ่งขวบในขณะนั้น ตนต้องการเงินมาซื้อนมให้ลูกเท่านั้น และยังบอกกับเจ้าที่อีกว่าถ้าไม่ขายบัญชีม้าก็ต้องขายยา เลือกที่จะขายบัญชีม้าดีกว่า ฝากถึงประชาชนที่คิดจะขายบัญชีม้า ต้องยอมรับในสิ่งที่จะตามมาด้วย จากนั้นนำตัวส่ง สน.พลับพลาไชย 2 ดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชนถึงกลลวงของมิจฉาชีพที่มาหลายรูปแบบ โดยเฉพาะพวกหลอกลวงปล่อยเงินกู้หรือสินเชื่อ ที่ใช้การยิงแอดโฆษณาตามเฟซบุ๊ก ปล่อยกู้ง่ายได้เงินเยอะ ขอให้ท่านใช้สติอย่าหลงเชื่อ ข้อควรระวังและจุดสังเกตเว็บไซต์หรือแอปกู้เงินผิดกฎหมาย ได้รับเงินกู้ไม่เต็มจำนวนมีการอ้างว่าให้โอนเงินค่าธรรมเนียมมาก่อน จึงจะทำสัญญากู้ได้ เช่น ค่าดำเนินการ ค่ายืนยันตัวตน แอปกู้เงินถูกกฎหมาย ต้องได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังเท่านั้น
เข้าไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย สุดท้ายหากท่านตกเป็นผู้เสียหาย ให้รีบโทรไปเบอร์ 1441 เพื่อขอแจ้งอายัดบัญชีของมิจฉาชีพ จากนั้นรวบรวมหลักฐาน อาทิ ภาพบทสนทนา หลักฐานการโอนเงิน และนำไปแจ้งความดำเนินคดีกับสถานีตำรวจในพื้นที่หรือแจ้งความออนไลน์ที่