เชอรีน ร่ำไห้ ทนถูกทำร้าย ตัดใจเลิกสามี โสด ตั้งสเปกใหม่ 32 ข้อ

Author:

เป็นอีกหนึ่งสาวสตรอง สำหรับ “เชอรีน” ณัฐจารี หรเวชกุล ล่าสุดออกมาเปิดใจผ่านรายการ ยังไงไหนเล่า ทางช่องยูทูบ GoyNattyDream (ก้อย นัตตี้ ดรีม) ถึงสถานะหัวใจ และการเป็นซิงเกิ้ลมัม

ยังเที่ยวอยู่ไหม?

เชอรีน : เป็นคนที่เที่ยวฉ่ำ มีลูกแล้วก็ยังเที่ยว ไม่อยากมีลูกแล้วหยุดใช้ชีวิตตัวเอง 100% อาจจะครึ่งนึงให้เขา อีกครึ่งหนึ่งยังเป็นเรา เพราะว่าวันนึงลูกโตขึ้น เราจะไม่เหลือชีวิตของเราแล้ว ถ้าเราให้เขาไปหมด เพื่อนนี่ก็เป็นไม่มีใครกล้ามีลูก เพราะกลัวว่ามีลูกแล้วชีวิตตัวเองจะหายไปหมดเลย มันคือการแบ่งเวลาสถานะหัวใจโสดมาก?

เชอรีน : โสดสนิท เปิดใจตลอดนะ แต่มันไม่มี

สเปกในตอนนี้?

เชอรีน : เมื่อก่อนจะเป็นคนที่ชอบก็คือชอบ เจอถูกใจ คุยแล้วชอบก็คือจบเลย แต่เดี๋ยวนี้มีเช็กลิสต์สเปกตัวเองมากขึ้น เพราะเราผ่านอะไรหลาย ๆ อย่างมา เราโตขึ้น และเราก็มีลูกแล้ว มันไม่ใช่แค่ชอบก็คบ ตอนเด็ก ๆ มันก็ทำได้ แต่ตอนนี้ต้องคิดถึงลูกด้วย เมื่อเราคบกับคน ๆ นึง เพราะสักวันนึงเขาก็ต้องเจอลูกเรา เราก็ต้องสแกนมากขึ้นกับคนที่จะเข้ามาในชีวิตของเรา

มีเช็กลิสต์สเปก?

เชอรีน : “เช็กลิสต์สเปกมีประมาณ 32 ข้อ หลัก ๆ คือ ชอบผู้ชายที่สะอาด ใจเย็น มีเหตุผล เราเริ่มเข้าใจความสัมพันธ์ คนเราคบกันมันมีปัญหากันได้ตลอด ฉะนั้นคนที่จะสื่อสารกับเราได้ต้องเป็นคนที่ใช้เหตุผล ใจเย็น ถ้าใจร้อนมันคุยกันไม่ได้ ชีวิตคู่มันคือการสื่อสารกันไปเรื่อย ๆ

ปรับเปลี่ยนกันอยู่ตลอดเวลา อยากมีแฟนนะ เพราะชอบที่จะแชร์กับใครสักคน ชอบการมีคู่ ที่สำคัญ คือ เข้ากับคนรอบตัวเราได้ กับเพื่อนฝูง ครอบครัว ทุกคนมีเพื่อน ไม่สามารถที่จะคบกันแล้วอยู่กันแค่ 2 คน

บทเรียนจากความรักที่ผ่านมา?

เชอรีน : รักตัวเอง ที่ผ่านมารู้เลยว่าเพราะไม่รักตัวเอง ก็เลยยอมให้เขาทำเราได้ ในทุกความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นแฟน เพื่อน ครอบครัว หรือใครก็ตาม ถ้าเราไม่รักตัวเอง เราจะปล่อยให้คนอื่นทำอะไรก็ได้ ถ้าเรารักตัวเองเราจะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ความรู้สึกเรามีค่าแค่ไหน เราควรที่จะจัดการกับปัญหานี้ยังไงที่เราโอเค และมีความสุขที่สุด แต่ว่าเราเองต้องไม่ไปเบียดเบียนเขาด้วย

เหตุการณ์ที่ไม่รักตัวเองมากที่สุด?

เชอรีน : คงจะเป็นเหตุการณ์ในข่าวที่เรายอมให้เขาทำร้ายร่างกาย แล้วเราก็ยังอยู่ต่อ ด้วยปัจจัยหลายอย่าง เพราะเรามีลูก อาจจะต้องคิดเยอะสำหรับการจะเลิกกับใครสักคนที่เขาเป็นพ่อของลูก มันยากมาก ๆ ที่เราจะเดินเอาลูกออกมาเลย เราอดทนอยู่ตรงนั้น 2 ปี

พอมาตอนนี้รู้สึกว่าดีแล้วที่เราอดทนอยู่ เพราะวันที่เราเดินออกมา รู้สึกว่าเราทนจนถึงที่สุดแล้วจริง ๆ พยายามจนถึงที่สุดแล้วจริง ๆ เราเดินออกมาโดยไม่มีคำถามว่า อดทนพอหรือยัง ไม่สงสัยในความพยายาม สุดที่สุดของเราแล้ว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *