เมื่อวานที่ผ่านมา 23 กรกฎาคม 2568 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 16.55 น. จ.ส.อ.พิชิตชัย บุญโคราช ชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 กำลังพลที่ออกลาดตระเวนบริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี เหยียบทุ่นระเบิดได้รับบาดเจ็บหนัก
โดยต้องสูญเสียขาข้างขวา และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว จากการตรวจสอบ คาดว่าเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 มองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตรจากฝั่งกัมพูชา
พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 2 จะยกระดับการตอบโต้ โดยตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.2568 เป็นต้นไป จะสั่งปิดด่านชายแดน 4 แห่ง ได้แก่ ช่องอานม้า ช่องสะงำ ช่องจอม และช่องสายตะกู
รวมถึงปิดสถานที่ท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย ในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ เพื่อประท้วงการลักลอบวางทุ่นระเบิดของกัมพูชา
แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ยืนยันว่าเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเป็นเรื่องจริง และกองทัพภาคที่ 2 ได้หารือกับ ศบ.ทก.
เพื่อขออนุมัติปิดด่านชายแดนและสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งได้รับความเห็นชอบแล้ว นอกจากนี้ จะมีการส่งหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านกลไกคณะกรรมการชายแดนภูมิภาค (RBC)
และแจ้งต่อกระทรวงการต่างประเทศเพื่อดำเนินการในระดับนานาชาติต่อไป การปิดด่านทั้ง 4 แห่งและสถานที่ท่องเที่ยว 2 ปราสาท จะมีผลในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้
โดยเป็นการแสดงจุดยืนของไทยต่อกรณีทุ่นระเบิดที่เชื่อว่าเป็นการกระทำของกัมพูชา ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
มาตรการนี้จะคงอยู่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และกองทัพภาคที่ 2 จะเพิ่มความระมัดระวังในพื้นที่เพื่อปกป้องกำลังพลและประชาชน
เมื่อวานที่ผ่านมา 23 กรกฎาคม 2568 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 16.55 น. จ.ส.อ.พิชิตชัย บุญโคราช ชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 กำลังพลที่ออกลาดตระเวนบริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี เหยียบทุ่นระเบิดได้รับบาดเจ็บหนัก
โดยต้องสูญเสียขาข้างขวา และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว จากการตรวจสอบ คาดว่าเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 มองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตรจากฝั่งกัมพูชา
พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 2 จะยกระดับการตอบโต้ โดยตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.2568 เป็นต้นไป จะสั่งปิดด่านชายแดน 4 แห่ง ได้แก่ ช่องอานม้า ช่องสะงำ ช่องจอม และช่องสายตะกู
รวมถึงปิดสถานที่ท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย ในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ เพื่อประท้วงการลักลอบวางทุ่นระเบิดของกัมพูชา
แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ยืนยันว่าเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเป็นเรื่องจริง และกองทัพภาคที่ 2 ได้หารือกับ ศบ.ทก.
เพื่อขออนุมัติปิดด่านชายแดนและสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งได้รับความเห็นชอบแล้ว นอกจากนี้ จะมีการส่งหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านกลไกคณะกรรมการชายแดนภูมิภาค (RBC)
และแจ้งต่อกระทรวงการต่างประเทศเพื่อดำเนินการในระดับนานาชาติต่อไป การปิดด่านทั้ง 4 แห่งและสถานที่ท่องเที่ยว 2 ปราสาท จะมีผลในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้
โดยเป็นการแสดงจุดยืนของไทยต่อกรณีทุ่นระเบิดที่เชื่อว่าเป็นการกระทำของกัมพูชา ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
มาตรการนี้จะคงอยู่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และกองทัพภาคที่ 2 จะเพิ่มความระมัดระวังในพื้นที่เพื่อปกป้องกำลังพลและประชาชน
